เนื่อหา สาระ..มากมาย ที่นี่ --คลิกเลย--

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เคล็ด(ไม่)ลับ : หน้าใสด้วย 4 สูตร

เคล็ดลับหน้าใสที่เพื่อน ๆ ทุกคนอยากจะมี วันนี้มี 4 สูตรหน้าใสมาฝากเป็นเกร็ดความรู้และเคล็ด(ไม่)ลับให้ลองทำ


1. สูตรเพิ่มความสดชื่นเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า
ให้ท่านล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจนสะอาด จากนั้นนำแอปเปิ้ลที่ยังไม่ปลอกเปลือกครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าเว้นเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 25 นาที แล้วล้างออก



2. สูตรลดริ้วรอย ทำให้หน้านวลใส
ให้นำแอปเปิ้ลครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด จากนั้นก็มะนาวมาคั้นเอาแต่น้ำประมาณ 1 ช้อนชาใส่ลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก



3. สูตรหน้าเด้ง ไม่หยาบกร้าน
นำโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะมาผสมกับมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ ประมาณ 3 ลูก ปั่นโยเกิร์ตกับมะเขือเทศพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าให้ทั่ว โดยเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก



4. สูตรขัดหน้าขาว และลดริ้วรอยหมองคล้ำ
นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย แล้วผสมกับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า แล้วขัด ๆ ถู ๆ ให้ทั่ว ขัด 5 นาที ทิ้งไว้อีก 5 นาที แล้วล้างออก ทำเดือนละครั้งกำลังดี คล้ายๆ กับการสครับหน้านั้นเอง



เพียงแค่ 4 สูตรง่ายคุณก็มีผิวหน้าใส สวยสมใจแล้ว...

เคล็ด(ไม่)ลับ : วิธีเร่งผมให้ยาวเร็ว



1.ออกกำลังกายให้เส้นผม เร่งสปีดความเร็วให้ เร่งผมยาว เร็วแบบติดเทอร์โบด้วยการก้มศีรษะให้เลือดไปเลี้ยงที่ศีรษะค้างไว้สัก 30 วินาที ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาทำเช่นนี้ทุกวัน เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นผมที่ศีรษะ ทำให้เส้นผมแข็งแรงและยาวเร็วขึ้นด้วย

2.เพิ่มโปรตีน Lee Stafford ช่างทำผมคนดังของเกาะอังกฤษแนะว่า โปรตีนสามารถปกป้องและซ่อมแซมเส้นผม ช่วยลดการหลุดร่วงและการแตกหักของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง และยาวเร็วขึ้นได้

3.กินปลา Richard Ward กล่าวไว้ว่า ปลา พืชผักใบเขียว และบลูเบอรี่เป็นแหล่งอาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ฉะนั้นบริเวณใดก็ตามในร่างกายที่มีเลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงได้ดีจะทำให้ ร่างกายบริเวณนั้นแข็งแรง มีชีวิตชีวารวมไปถึงเส้นผมบนศีรษะด้วย

4.เคยนวดศีรษะกันบ้างไหม Phillip Kingsley เปิดเผยให้ฟังถึงศาสตร์ของการนวดศีรษะว่า การนวดศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนศีรษะ และทำให้ระบบเมตาโบลิซึ่ม ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และยังจะช่วยทำให้เส้นผมเติบโตเร็วขึ้น การนวดศีรษะอาจทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านในขณะสระผม โดยการใช้นิ้วมือกดและนวดไปตามจุดบนศีรษะอย่างเบามือ

5.แปรงให้ถูก หลีกเลี่ยงการทำให้เส้นผมขาดและหลุดร่วงด้วยการไม่หวีผมขณะยังเปียกอยู่ เลือกใช้หวีซี่ใหญ่และห่างในการหวีผมช่วงผมเปียกแทน

6.ตัดผมบ้าง อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการเล็มผมบ่อยๆ จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น การเล็มผมนอกจากจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้นแล้วถือว่ายังเป็นการกำจัดผมแตกปลายไป ในตัวด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็หมั่นให้ช่างเล็มผมก็จะดีไม่ใช่น้อย

7.ต่อผมก็ได้ สำหรับ สาวใจร้อนที่ทนรอให้ผมยาวไม่ได้หรืออาจมีภารกิจสำคัญที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะ ต้องไว้ผมยาวภายใน 1 วัน ให้ลองมองหาร้านทำผมที่มีบริการต่อผมดู ให้เลือกใช้บริการร้านต่อผมที่ค่อนข้างมีประสบการณ์สักนิดก่อนที่คิดจะต่อผม

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาการปวดในผู้ป่วยมะเร็ง

ความปวด เป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมาน รวมทั้งรบกวน การประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ป่วยโดยความปวดอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวหรือต่อเนื่องตลอดเวลาก็ได้ ความจะเกิดกับผู้ป่วยมะเร็งได้ทุกระยะ โดยเฉพาะเมื่อโรคมะเร็งอยู่ในระยะแพร่กระจาย แต่ก็มีผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนไม่น้อยที่พบว่าไม่เคยมีความปวดเกิดขึ้นเลย

ความปวด จากโรคมะเร็งจะรุนแรงหรืไม่ขึ้นกับชนิดของโรคมะเร็ง อวัยวะที่เกิดโรค รวมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยโดยเฉพาะเมื่อร่างกายอ่อนล้า มีความกลัว ซึม เศร้า หรือวิตกกังวลเกิดขึ้น จะมีส่วนทำให้ความปวดทีเป็นอยู่มีความรุนเเรงมากขึ้น ผู้ป่วยที่มีความปวดเท่านั้นที่จะรู้สึกถึงลักษณะและระดับความรุนแรงของความปวดที่เกิดขึ้นกับเขาได้ดี กิจกรรมต่าง ๆ จะถูกกระทบจนไม่อาจกระทำได้จากความปวด รวมทั้งสภาพทางด้านจิตใจที่จะทรุดลงอีกด้วย

ดังนั้น เมื่อเกิดความปวดขึ้นผู้ป่วยและญาติไม่ควรรีรอ และไม่ต้องเกรงใจแพทย์ในการแจ้งอาการปวดที่เกิดขึ้นให้กับแพทย์ พยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแลแก่ผู้ป่วยทราบ เพื่อแพทย์ พยาบาลจะได้ทราบถึงความปวดของผุ้ป่วยอย่างละเอียด ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้สามารถประเมินลักษณะของอการปวด ชนิด และความรุนแรงของความปวดที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยอันจะนำไปสู่การบำบัดความปวดให้ได้ผลมากที่สุด

ดังนั้น ผู้ป่วยอย่าเบื่อหรือรำคาญกับคำถามมากมายจากแพทย์ พยาบาล เพราะคำถามบางข้ออาจจะซ้ำซากหรือดูเหมือนไร้สาระ แต่โปรดระลึกไว้เสมอว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากผู้ป่วยยิ่งมากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์แก่แพทย์ในการเลือกวิธ๊บำบัดความปวดได้ดีและได้ผลที่สุดแก่ผู้ป่วยนั่นเอง

คำถามที่ผู้ป่วยหรือญาติมักจะถูกถามจากบุคคลกรทางการแพทย์เสมอ จะประกอบด้วย

- รู้สึกปวดตั้งแต่เมื่อไร ? ช่วงเวลา ความถี่ของการปวด
- ปวดตรงบริเวณไหนบ้าง ?
- ปัจจัยที่ทำให้ความปวดลดลงหรือเพิ่มขึ้น
- ลักษณะปวดเป็นเช่นไร ? เช่นปวดตื้อ ๆ ปวดเมื่อย ปวดแปล๊บ ๆ ปวดแสบปวดร้อนเหมือนเข็มแทง เป็นต้น
- วิธีบำบัดอาการปวดที่เคยได้รับมาก่อน รวมถึงผลของการใช้วิธีนั้น
- ระดับความรุนแรงของความปวด ชนิด ขนาดและวิธีการใช้ยาแก้ปวดที่ผ่านมา รวมทั้งผลของการใช้ยานั้น

การบำบัดความปวดจากโรคมะเร็ง มีหลายวิธี โดยทั้วไปแพทย์มักจะให้ยาแก้ปวดหนึ่งชนิด หรือมากกว่า หรือร่วมกับวิธีการบำบัดอื่น ยาแก้ปวดมีหลายรูปแบบ เช่น ชนิดรับประทาน ปิดบนผิวหนัง อมใต้ลิ้น หรือเหน็บทางทวารหนักซึ่งทุกแบบท่กล่าวจะมีประสิทธิภาพในการแก้ปวดได้เท่ากับยาฉีดผู้ป่วยควรใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ยาแก้ปวดยางชนิดอาจมีฤทธิ์ทางด้านเสพติด แต่การใช้อย่างถูกวิธีโดยปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด จะไม่ทำให้เกิดภาวะติดยาขึ้นและไม่ควรกลัว

การใช้ยาแก้ปวด ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีความปวดมาก กว่าร้อยละ 80 สามารถควบคุมความปวดที่เกิดขึ้นได้ หรือสามารถควบคุมความปวดให้ทุเลาลงในระดับที่ผู้ป่วยพอใจได้ สิ่งสำคัญ คือ การให้ข้อมูลความปวดของผู้ป่วยแก่แพทย์หรือพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะสามารถประเมินผลการควบคุมความปวดว่าได้ผลดีเป็นที่พอใจหรือไม่

ยาแก้ปวดทุกชนิดอาจจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงกับผู้ป่วยบางคนได้ อาทิเช่น มึนศรีษะ คอแห้ง งุนงง ง่วงซึม สับสน ท้องผูก คลื่นไส้อาเจียน หากมีอาการดังกล่าวให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทราบและหากความของผู้ป่วยได้รับการควบคุมให้ทุเลาลงหรือปวดน้อยทีสุด จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของผุ้ป่วยมะเร็งดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ผลิตภัณฑ์ของ aimstar

ผลิตภัณฑ์ของบริษัท มีมาตรฐานคุณภาพระดับส่งออก มีการขยายตัวไปต่างประเทศ มีทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้แล้วหมดไป ซื้อซ้ำใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้


1. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ไวทอลสตาร์) เช่น น้ำมันรำข้าว ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ดีท๊อกซ์ กาแฟปราศจากนำตลและคลอเรสเตอรอล เป็นต้น



2. ผลิตภัณฑ์ถนอมผิว (แอสนี่) เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ปรับสภาพผิว บำรุงผิว เป็นต้น



3. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (แอสนี่) เช่น ผลิตภัณฑ์รองพื้น ดินสอเขียนคิ้ว อายแชโดว์ บลัชออน ลิปสติก มาสคาร่า ชุดแปรงแต่งหน้า ชุดทำความสะอาดเครื่องสำอาง เป็นต้น



4. ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (บอดี้ซอฟท์) เช่น เจลอาบน้ำ โลชั่นถนอมผิว แชมพู ครีมนวด โรลออน ยาสีฟัน



5. ผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน (ไทดี้ โฮม) เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ทำความสะอาดเอนกประสงค์ ทำความสะอาดห้องน้ำ ทำความสะอาดกระจก เป็นต้น

จุดเด่นที่น่าสนใจ ในการทำธุรกิจ aimstar

...
จุดเด่นที่น่าสนใจของบริษัท Aim Star NetWork เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องอุปโภคและบริโภคที่ดีที่สุดของคนไทย และได้ขยายเครือข่ายไปหลายประเทศในแถบเอเซีย และสร้างเครือข่ายข้ามประเทศได้ง่ายๆ ด้วยระบบ OneCode One World ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องลงทุนสูง เพียงเริ่มต้นเป็นผู้บริโภคและขยายเครือข่ายธุรกิจตามระบบ ทำธุรกิจได้ทุกๆ ที่ ทุกๆ เวลาที่ไหนก็ได้เวลาไหนก็ได้เมื่อไหร่ก็ได้ มีอิสระภาพเต็มที่ในการทำงาน เหนื่อยในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นธุรกิจจะเติบโตตามระบบของมันเองตลอดไป รายได้ที่เกิดขึ้นเป็นของเราตลอดกาล สามารถสืบทอดเป็นมรดกให้ทายาทได้ สามารถสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะระบบจะทำงานแทนคุณ

บริษัท เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด ก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่คัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมมาตรฐานสูงและทรงประสิทธิภาพจากทั่วโลก โดยมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบเครือข่าย ด้วยแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการจ่ายผลตอบแทนที่สร้างรายได้แก่นักธุรกิจเอมสตาร์อย่างต่อเนื่อง และไร้ขีดจำกัด บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย และมีสาขาต่างประเทศอีก 3 แห่ง ดังนี้

1. สำนักงานใหญ่ กทม.

2. สาขาประเทศญี่ปุ่น

3. สาขาประเทศกำพูชา

4. สาขาประเทศลาว

และอีกหลายสาขาในแต่ละจังหวัดของประเทศไทย เราจึงภูมิใจที่ได้ใช้สินค้าของคนไทย ภูมิปัญญาไทย และฝีมือคนไทยที่ชาวต่างชาติต่างก็ยอมรับ

เหตุผลต่างๆ ที่ควรเลือกทำธุรกิจกับ เอมสตาร์

เอมสตาร์ไม่จำเป็นต้องขาย แค่บริโภคดีแล้วบอกต่อ

เอมสตาร์ ไม่ว่าตำแหน่งใดก็สามารถแซงกันได้ อยู่ที่ตัวคุณ

เอมสตาร์ ผลตอบแทนในการจ่ายยุติธรรม จ่ายจริงทุกๆ เดือน

เอมสตาร์ เป็นระบบเรียงสายงาน AUTO RUN ติดตัวได้แค่เพียง 2 คน โอกาสได้หลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน ง่ายกว่าที่คุณคิด !!

เอมสตาร์ คุณสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

เอมสตาร์ ทำง่าย ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา

เอมสตาร์ มีสาขาอยู่ที่ประเทศกัมพูชาและญี่ปุ่น และกำลังขยายสาขาในประเทศจีนและอเมริกา

เอมสตาร์ คุณสามารถสร้างเครือข่ายข้ามประเทศได้ง่ายๆ ด้วยระบบ OneCode OneWorld

เอมสตาร์ คุณสามารถมีลูกทีมอยู่ต่างประเทศ ไม่เฉพาะในเมืองไทย

เอมสตาร์ สามารถสั่งซื้อสินค้า ทาง Online หรือ ทางโทรศัพท์ บริษัทส่งสินค้าถึงบ้าน

เอมสตาร์ ค่าสมัครเป็นสมาชิกเพียง 300 บาทเท่านั้น

เอมสตาร์ ค่ารักษาตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์ (Supervisor) เพียง 300 PV (1PV = 3 บาท)



เอมสตาร์ พลังแห่งเครือข่าย ที่คนไทยจะได้เป็นต้นสายแห่งเอเชีย

เอมสตาร์ เราคือบริษัทเครือข่ายของคนไทย สินค้าที่ผลิตในเมืองไทย ที่สามารถขยายเครือข่ายไปประเทศญี่ปุ่น และประเทศกำพูชา เอมสตาร์ใช้เวลาพิสูจน์องค์กรเพียง 3 ปี ด้วยจำนวนสมาชิก 150,000 รหัสและยอดธุรกิจรวม 580 ล้านบาท



ถ้าคุณ... กำลังคิดจะทำธุรกิจเฟรนไชส์

ถ้าคุณ... กำลังมองหาอิสระภาพทางการเงินและอิสระภาพทางเวลา

ถ้าคุณ... กำลังมองหาแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง

ถ้าคุณ... กำลังมองหาโอกาสดีๆให้กับชีวิต...ในแนวคิดที่แตกต่าง

เอมสตาร์ เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

วิธีเพิ่มน้ำหนัก อย่างมีสุขภาพดี

เคล็ดลับวิธีเพิ่มน้ำหนัก สำหรับคนที่มีน้ำหนักน้อยให้อวบอิ่มสุขภาพดี

เริ่มจาก การแบ่งมื้ออาหารให้ถี่ขึ้น แทนที่จะกินอาหาร 3 มื้อหลัก ให้แบ่งเป็น 5 -6 มื้อต่อวัน

เลือกกินคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ ขนมปังโฮลวีต หรือคาร์โบไฮเดรตจากผัก ผลไม้

เช่น ข้าวโพด เผือก และมันอบ

เน้นรับประทานโปรตีนจากเนื้อปลา โดยเฉพาะปลานึ่ง

ดื่มน้ำผลไม้ เป็นประจำทุกวัน โดยเลือกผลไม้ที่ไม่หวานจนเกินไป วิธีนี้ช่วยเพิ่มแคลอรี่อีกทางหนึ่ง

ออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก เพราะจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ

เพียงเท่านี้น้ำหนักคุณจะเพิ่มขึ้นแบบไม่เสียสุขภาพแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว

1. ป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบตัน ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี
Gamma-Oryzanol,Phytosterol,Tocopherol,
Tocotrienol,Oleic Acid (Omega 9) ซึ่งสารดังกล่าวข้างต้น
- ช่วยลดคลอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL-Low Density Lipoprotein)
- ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)
- ช่วยเพิ่มระดับของ HDL.(High Density Lipoprotein) ซึ่งเป็นคลอเรสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกา มีผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานเป็นปกติ อวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ,สมอง,ตับ,ไต ฯลฯทำงานได้ดีขึ้น ทำให้สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และกลุ่มโรคหลอดเลือดตีบตันได้ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด,หัวใจวาย ,อัมพาต,อัมพฤกษ์ เป็นต้น

2. ป้องกันโรคเบาหวาน ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี ธาตุโครเมียม ซึ่งธาตุนี้เมื่อร่างกายดูดซึม
เข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต จะทำหน้าที่ในการจับฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนอินซูลิน คงตัวได้นานเกาะตามเซลล์ต่างๆของกล้ามเนื้อ ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมได้ง่ายขึ้น

3. ป้องกันโรคมะเร็ง ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี กลุ่มวิตามินอี
(Tocopherol,Tocotrienol),สเตอรอลจากพืช (Phytosterol),แกมม่า-โอไรซานอล (Gamma-Oryzanol) ซึ่งสารดังกล่าวข้างต้น มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง

4. ป้องกันโรคสายตา ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี โปรวิตามินเอ - เบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอได้ โดยเฉพาะโรคน้ำตาแห้ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังบำรุงเส้นผมให้ดกดำเป็นเงางามและมีสุขภาพเล็บที่ดี

5. ป้องกันโรคสมองเสื่อม ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี Omega3 ,กลุ่มวิตามินอี,แกมม่า-โอโรซานอล,
Phospholipid ซึ่งสารดังกล่าวข้างต้น มีคุณสมบัติรักษาสมดุลของระบบประสาท บำรุงสมองเสริมความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์

6. บำรุงผิวพรรณ ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี Linoleic Acid (Omega 6),Squalene (Ceramide Group)
ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของชั้นผิวหนัง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวยืดหยุ่นลดริ้วรอย ป้องกันรังสี UV จากแสงแดด และช่วยปรับสภาพผิว ทำให้ดูขาวกระจ่างใส

7. ทำให้นอนหลับสบาย ในน้ำมันรำข้าวสกัดมีสารกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งช่วยทำให้นอนหลับสบาย ,ช่วยลดความเครียด

8. อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี
วิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น โครเมียม,แมกนีเซียม,แมงกานีส,สังกะสี,ซีลิเนียม,เหล็ก,โปแตสเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบหัวใจ ,ระบบประสาท ,ระบบสมอง และอวัยวะอื่นๆ

9.ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ในน้ำมันรำข้าวสกัดมี สาร Policosanol (โพลิโคซานอล) ซึ่งสารตัวนี้ ทำหน้าที่เป็น Anti-platelet agent ซึ่งเป็นสารป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด มีระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น